ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูหนังที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ที่พูดถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ โดยเหล่านั้นจะได้เห็นถึงการโลดแล่นของเหล่าตำนานต่างๆ ที่จะมานำพาศิลปะอันดีงามให้ถ่ายทอดออกมาให้คนที่ได้ไปดูหนังเรื่องนี้ได้เข้าใจไปกับลีลาการดำเนินเรื่องสุดเร้าใจแต่สามารถทำให้คนที่ได้ไปดูหนังเรื่องนี้นั้นรู้สึกลงตัวภายในหนังเรื่อง The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ โดยหนังเรื่องนี้นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบการดูหนัง แต่ต้องเป็นผู้ที่ชื่นชอบการดูหนังพอสมควรและต้องมีการตีความที่ดีมีความเข้าใจในบรรยากาศ แต่ถึงไม่มีก็จะดูหนังเรื่องนี้ได้สนุกเหมือนกัน นอกจากจะให้เรานั้นได้เห็นถึงความงดงามและการต่อสู้สุดมันเรายังคงได้เห็นถึงปรัชญาสุดดำมืดที่หนังเรื่องนี้นั้นพยายามจะนำมาใส่ไว้ในเรื่องราวความดราม่าที่ดำเนินเกิดขึ้นมา สำหรับใครที่มีการตีความและวิเคราะห์ที่เข้าใจแล้วคงต้องขอบอกว่านี่อาจจะเป็นหนึ่งหนังที่ขึ้นหิ้งสำหรับพวกคุณ
เนี่ยโดยต้นกำเนิดของตำนานภายใน The Green Knight แค่พูดเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าเซอร์กาเวน เขานั้นเป็นหลานชายของคิงอาเธอร์อัศวินโต๊ะกลมในตำนานผู้โด่งดัง แต่ตัวของเขานั้นกลับมีนิสัยที่กล้าหาญบ้าบิ่นมีความเอาแต่ใจบ้างเล็กน้อย ในเวลาที่เขานั้นได้ไปทำภารกิจที่ต้องเผชิญต่อสู้กับอัศวินมรกต ซึ่งถือได้ว่าภารกิจนี้นั้นจะเป็นเหมือนกับภารกิจที่จะมาทดสอบความเป็นอัศวินในตัวทุกคนเลย โดยตัวของเขานั้นจะต้องต่อสู้ไปกับอุปสรรคและเรื่องราวต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่เป็นวิญญาณ ยักษ์ตัวใหญ่ๆ หรือโจรผู้ชั่วร้าย เพื่อทำการพิสูจน์ว่าตัวของเขานั้นมีคุณค่าและคู่ควรกับการปกครองอาณาจักรและครอบครัวของเขาหรือไม่ โดยตัวของเขานั้นต้องการที่จะทำให้เขามีความสามารถที่ดีพอ เพื่อที่จะได้ทำตามความหวังของคนรอบข้างของเขาให้ได้ มากมายถึงแม้ว่าเขานั้นจะต้องเดิมพันต่างๆกับชีวิตตัวเอง แต่เขาก็พร้อมที่จะก้าวข้ามมันไปและกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากที่เขานั้นได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆที่หลังจากเกิดศึกนี้ขึ้นมา โดยไม่สนใจแม้แต่ชีวิตตัวเองเลย
สำหรับเหล่านั้นถือได้ว่าThe Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ เป็น หนึ่ง ในหนังปรัชญาที่สามารถทำให้คนดูธรรมดานั้นมีความประทับใจไปด้วยกันได้ หรือถ้าคุณเป็นแฟนคลับของการอ่านหนังสือที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แล้ว อาจจะชื่นชอบการที่หนังเรื่องนี้นั้นได้มีการนำเรื่องราวต่างๆมาตีความใหม่ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น และยังสอดแทรกไปกับปรัชญาต่างๆ ที่จะทำให้เรานั้นได้เห็นถึงมุมมืดของใครบางคน โดยเหล่านั้นจะต้องขอชื่นชมการตีความและความสามารถในการดัดแปลงของผู้กำกับเลยที่สามารถทำให้หนังนั้นมาไกลได้ถึงขั้นนี้ แต่สำหรับใครที่อาจจะยังไม่กล้าดูภาพยนตร์เรื่องนี้และอาจกำลังคิดไตร่ตรองอยู่เพียงแค่เปิดใจดูคงไม่ยากแน่นอน